แชร์

เทคนิคการคำนวณค่าส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรที่ผู้อยู่อาศัยควรรู้

อัพเดทล่าสุด: 20 ม.ค. 2025
20 ผู้เข้าชม

เทคนิคการคำนวณค่าส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรที่ผู้อยู่อาศัยควรรู้

บทนำ
ค่าส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายนั้นคำนวณจากอะไร และเหตุใดจึงมีความแตกต่างกันในแต่ละโครงการ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจหลักการคำนวณค่าส่วนกลาง และแนะนำวิธีตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารจัดการของนิติบุคคล

ค่าส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรคืออะไร?
ค่าส่วนกลางคือค่าบำรุงรักษาและดูแลพื้นที่ส่วนกลางที่เจ้าของบ้านในหมู่บ้านจัดสรรทุกคนต้องจ่ายตามที่กำหนดในกฎหมายหรือข้อตกลงของนิติบุคคล ตัวอย่างพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้ค่าส่วนกลาง ได้แก่:
  • สวนหย่อมและสนามเด็กเล่น
  • ถนนและทางเดินในหมู่บ้าน
  • สระว่ายน้ำและฟิตเนส
  • ระบบรักษาความปลอดภัย
  • ระบบไฟส่องสว่างและการจัดการขยะ

ปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณค่าส่วนกลาง


1.ขนาดพื้นที่ของโครงการ
 

โครงการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ต้องการงบประมาณที่สูงกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น เช่น ถนนยาวขึ้น สวนขนาดใหญ่ขึ้น เป็นต้น

2.จำนวนบ้านในโครงการ

จำนวนบ้านหรือยูนิตที่มากขึ้นช่วยลดภาระค่าส่วนกลางต่อบ้าน เนื่องจากค่าใช้จ่ายสามารถกระจายไปในหลายยูนิต

3.บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก

หมู่บ้านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาก เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่า

4.นโยบายการบริหารจัดการของนิติบุคคล

การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการ

สูตรการคำนวณค่าส่วนกลางทั่วไป
ค่าส่วนกลาง = (ค่าใช้จ่ายรวมของโครงการต่อปี) / (พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดของโครงการในตารางเมตร)

ตัวอย่าง:

ค่าใช้จ่ายรวมของโครงการต่อปี: 1,200,000 บาท
พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด: 10,000 ตารางเมตร
ดังนั้น ค่าส่วนกลางต่อปีต่อตารางเมตร = 1,200,000 / 10,000 = 120 บาท/ตารางเมตร/ปี

หากบ้านของคุณมีพื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายคือ: 100 x 120 = 12,000 บาทต่อปี หรือ 1,000 บาทต่อเดือน

แนวทางการตรวจสอบความโปร่งใสในการคำนวณค่าส่วนกลาง

1.ตรวจสอบรายงานทางการเงินของนิติบุคคล

นิติบุคคลต้องจัดทำรายงานการใช้จ่ายและเปิดเผยต่อเจ้าของบ้านอย่างโปร่งใส

2.ตรวจสอบสัญญาและข้อตกลง

ตรวจสอบว่าสัญญาที่คุณเซ็นไว้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับค่าส่วนกลางไว้อย่างชัดเจนหรือไม่

3.เข้าร่วมการประชุมใหญ่

การเข้าร่วมประชุมใหญ่ช่วยให้คุณเข้าใจการบริหารจัดการ และสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ค่าส่วนกลางได้

4.เปรียบเทียบกับโครงการใกล้เคียง

เปรียบเทียบค่าส่วนกลางกับโครงการอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เพื่อดูว่านิติบุคคลของคุณมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมหรือไม่

ข้อดีของการจ่ายค่าส่วนกลางตรงเวลา
  1. การบำรุงรักษาที่ต่อเนื่อง: ช่วยให้พื้นที่ส่วนกลางอยู่ในสภาพดีเสมอ
  2. เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน: หมู่บ้านที่ดูแลอย่างดีมักมีมูลค่าทรัพย์สินสูงขึ้น
  3. สร้างความสัมพันธ์ในชุมชน: การจ่ายค่าส่วนกลางแสดงถึงความรับผิดชอบร่วมกันในชุมชน

หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารจัดการค่าส่วนกลาง Primo Plus พร้อมช่วยคุณวางแผนและดำเนินการอย่างมืออาชีพ ติดต่อเราได้ที่ www.primoplus.co.th

อ่านเพิ่มเติม:

5 ปัญหาส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรที่พบบ่อย และบทบาทของนิติบุคคลในการแก้ไข (โพสต์ในวันที่ 21/1/2025)
การจัดการพื้นที่ส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ: บทบาทสำคัญของนิติบุคคลในการดูแลชุมชน (โพสต์ในวันที่ 23/1/2025)



บทความที่เกี่ยวข้อง
10 ปัญหาที่พบบ่อยในหมู่บ้านจัดสรร และวิธีแก้ไขจากนิติบุคคลมืออาชีพ
การอยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรรนั้นให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัย แต่ก็มักพบปัญหาที่ต้องการการจัดการอย่างมืออาชีพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับปัญหาที่พบบ่อยในหมู่บ้านจัดสรร พร้อมวิธีแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
31 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy